Wednesday, 5 August 2015

มีพื้นที่จำกัด แต่อยากปลูกผักทานเอง มาดูวิธีง่ายๆ ที่ลงทุนน้อยที่นี่

หลายๆ ท่านที่อยากปลูกผักไว้รับประทานเอง แต่มีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ จำเป็นที่จะต้องคำนึงในเรื่องการปลูกดังนี้

- หากมีพื้นที่ปลูกไม่มากจึงควรปลูกผักให้มากชนิด แต่ละชนิดให้เพียงพอต่อการกินในแต่ละมื้อ

- หากไม่มีพื้นที่ที่เป็นดิน สามารถปลูกได้ในภาชนะต่างๆ

- เลือกใช้วัสดุปลูกที่ร่วนซุย น้ำหนักเบา และอุ้มน้ำได้ดี

- เลือกปลูกผักที่การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก ไม่มีกลิ่นฉุน ต้นไม่สูงเกินไป

- ผักที่ได้มักจะเป็นผักที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ผักที่ปลูก เช่น ผักบุ้งจีน คะน้า กะเพรา โหระพา แมงลัก พริกขี้หนู มะเขือเปราะ ผักปลัง สะระแหน่ ผักกาดหอม ชมจันทร์ ผักชี ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ยี่หร่า เป็นต้น

- การปลูกใส่ภาชนะ ต้องให้น้ำบ่อยครั้ง แต่ละครั้งจะไม่มาก เพราะน้ำจะแห้งเร็วกว่าปลูกลงดิน

- การให้ปุ๋ย อาจให้ได้ทั้งในรูปปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยเคมี ในปริมาณที่เหมาะสม

- สารกำจัดโรคแมลง ทำได้โดยการเด็ดใบที่เป็นโรคทิ้ง การบี้ทำลายแมลงหรือหนอน หรือใช้ชีวภัณฑ์ เช่น สารสกัดจากสะเดา น้ำสบู่ น้ำแช่ยาฉุน

 การเพาะเมล็ด

อุปกรณ์ ภาชนะที่จะนำมาเพาะ เช่น ถาดเพาะ ตะกร้า กระถาง ต้องเป็นภาชนะที่สามารถระบายน้ำได้ดี วัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์

1. เลือกชนิดของผักที่ต้องการปลูก

2. ทำวัสดุปลูกให้ชื้นก่อน (อาจเป็นขุยมะพร้าวผสมปุ๋ยหมัก (4: 1) หรือใช้พีทมอส วัสดุปลูกสำเร็จต่างๆ หรือดินหมักก็ได้)

3. จากนั้นนำวัสดุปลูกใส่ลงในถาดเพาะ แล้วใช้ไม้เล็กๆ หรือนิ้วมือขีดวัสดุปลูกให้เป็นร่องตื้นๆ

4. หยอดเมล็ดพันธุ์ผักลงไป รดน้ำให้ชุ่ม 2 ครั้ง เช้า-เย็น

- เมล็ดพันธุ์ผักส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการงอกประมาณ 4-7 วัน

- เมล็ดพันธุ์ผักที่มีเปลือกแข็ง เช่น บวบ มะระ อาจใช้กรรไกรตัดเล็บตัดบริเวณเปลือกเล็กน้อย (ตรงข้ามด้านที่รากจะงอก) เพื่อให้เมล็ดงอกได้ดีขึ้น
 การทำดินหมัก

การทำดินหมักเพื่อให้ดินระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการปลูกผักในกระถาง (สามารถทำเองได้) ส่วนประกอบดังนี้

- ปุ๋ยคอก

- เศษผัก

- กากน้ำตาลน้ำตาลทราย

- หัวเชื้อจุลินทรีย์ (EMหรือน้ำหมักชีวภาพ)

- ดินที่มีอยู่ หรือ ดินถุง

นำส่วนประกอบทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน (ความชื้น 60-70% ) คลุมกองดินหมักด้วยผ้าใบหรือผ้าพลาสติกเพื่อไม่ให้โดนน้ำฝนในระยะแรกกองดินหมักจะเกิดความร้อนขึ้น ให้หมั่นกลับกองดินหมัก และหมักไปเรื่อยๆ จนไม่มีความร้อนหลงเหลืออยู่ จึงสามารถนำดินไปใช้เพาะเมล็ดหรือปลูกต้นไม้ต่อไปได้